ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โพชฌังคปริตร

บทสวด โพชฌังคปริตร


โพชฌังคปริตรมีความเป็นมาอย่างไร

โพชฌงค์เป็นหลักธรรมหมวดหนึ่งที่อยู่ในบทสวดมนโพชฌังคปริตร ถือเป็นพุทธมนต์ที่ช่วยให้คนป่วยที่ได้สดับตรับฟังธรรมบทนี้แล้วสามารถหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ที่เชื่ออย่างนี้เพราะมีเรื่องในพระไตรปิฎกเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจา้ได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสปะที่อาพาธ พระองค์ทรงแสดงสัมโพชฌงค์แก่พระมหากัสสปะ พบว่าพระมหากัสสปะสามารถหายจากโรคได้ อีกครั้งหนึ่งพระองค์ได้ทรงแสดงธรรมบทนี้แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ หลังจากนั้น พบว่า พระโมคคัลลานะก็หายจากอาพาธได้

ในที่สุด เมื่อพระพุทธองค์เองทรงอาพาธ จึงตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงโพชฌงค์ถวาย ซึ่งพบว่าพระพุทธเจ้าก็หายประชวร

พุทธศาสนิกชนจึงพากันเชื่อว่า โพชฌงค์นั้น สวดแล้วช่วยให้หายโรค ซึ่งในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นธรรมเกี่ยวกับปัญญา เป็นธรรมชั้นสูง ซึ่งเป็นความจริงในเรื่องการทำใจให้สว่าง สะอาดผ่องใส ซึ่งสามารถช่วยรักษาใจ เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับร่างกาย เนื่องจากกายกับใจเป็นสิ่งที่อาศัยกันและกัน

หลักของโพชฌงค์เป็นหลักปฏิบัติทั่วไปซึ่งไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น เพราะโพชฌงค์แปลว่าองค์แห่งโพธิหรือองค์แห่งโพธิญาณเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ซึ่งเป็นเรื่องของปัญญา  




โพชฌังคปริตร

   โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
   โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์
   วิริยัมปีติ ปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
   วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์

   สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
   
สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์
   สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
   7ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว
   ภาวิตา พะหุลีกะตา
   อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว
   สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
   ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน
   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
   โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
   ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
   เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา
   ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก
   โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
   จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง
   เต จะ ตัง อะภินันทิตวา
   ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม
   โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
   โรคก็หายด้ในบัดดล
   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
   โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
   ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
   เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
   ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก
   จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
   รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ
   สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
   ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน
   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
   โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
   ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
   ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
   ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก
   มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
   ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา
   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
   โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
   ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น